อูคูเลเล่ Ukulele อยู่ คู่โลกแห่งดนตรีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แล้ว โดยอูคูเลเล่มีต้นกำเนิดจากการที่ชาวพื้นเมือง ในฮาวาย ใช้วิชาครูพักลักจำ ประดิษฐ์เครื่องดนตรีเลียนแบบเครื่องดนตรีคล้ายกีตาร์ นามว่า Cavaquinho ที่ชาว
โปรตุเกสขนมาเล่นให้ชาวฮาวายได้สดับกัน ต้องขอบคุณชาวโปรตุเกส ที่อุตส่าห์หอบเอาเจ้าเครื่องดนตรีนี้ ขึ้น
เรือข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งไกล เพราะหากชาวฮาวายเอี้ยนไม่นำมาประยุกต์ใช้เป็นการใหญ่ มันก็คงไม่เป็นที่รู้จัก
ไปทั่วโลกดังทุกวันนี้
อูคูเลเล่ ช่วงแรก Ukulele ใช้สำหรับบรรเลงเพลงฮาวายเอี้ยนขับกล่อมชาวเกาะให้ครื้นเครง โดยมีพระราชา
ชาวเกาะ King David Kalakaus เป็นผู้สนับสนุนใหญ่ จนใครๆ ในเกาะก็พากันเล่นเจ้าอูคูเลเล่ตัวจิ๋วนี้
จากนั้นอูคูเลเล่ตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง Ukulele ก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น และเนื่องจากขนาตอันกะทัดรัดและอูคูเลเล่ราคาที่ไม่แพง อูคูเลเล่มันเปลี่ยนสถานะจากเครื่องดนตรีพื้นเมืองกลายเป็นเครื่องดนตรีสากล
มีนักดนตรีจาก แผ่นดินใหญ่อเมริกานำมาเล่นกันหลากหลายแนว ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินแจ๊ซ ความโดดเด่นในวงการเพลงของมันมาถึงจุดสุดยอดในช่วงยุค 60's ก่อนที่ความนิยมจะเริ่มซาหายไปตามกาลเวลา จนเมื่อช่วงปลายยุค 90's นี้เอง ที่Ukulele กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เมื่อ Jake Shirmabukuro มือ Ukulele หนุ่มน้อยเชื้อสายญี่ปุ่น-ฮาวาย นำมันมาบรรเลงเพลงร่วมสมัยด้วย ลีลามากลวดลายน่าฟัง จนได้รับสมญานามว่าเป็น อัจฉริยะ Ukulele
ปัจจุบัน นักฟังเพลงหลายท่านน่าจะเคยเห็น เคยได้ยินเสียงของมันมาแล้ว เพราะปัจจุบันมีศิลปินท็อป
ชั้นนำเอามาขึ้นเวทีกันบ่อยๆ ที่เห็นชัดๆ ก็เห็นจะเป็น Jack Johnson และ Jason Mraz คนส่วนใหญ่เห็น แต่
คนส่วนมากมักไม่ทราบว่ามันคืออะไร ทุกครั้งที่หยิบเจ้า อูคูเลเล่Ukulele ขึ้นมาเล่น มักจะมีคนหัวเราะแล้วถามว่า
ก็ตาร์จิ๋วนี้มันเล่นได้จริงๆ หรือ ? คำตอบคือ
1.อูคูเลเล่มันไม่ใช่กีตาร์ วิธีจับคอร์ด และการตั้งสายต่างๆ ไม่เหมือนกัน
เลย แต่หากเล่นกีตาร์มาก่อน ก็ปรับตัวทำความเข้าใจอูคูเลเล่ได้ไม่ยาก
2อูคูเลเล่ถึงไม่ใช่กีตาร์ แต่มันก็เล่นได้ไพเราะเพราะ
ครั้งไม่แพ้กีตาร์เลยครับ แถมสายในลอนจับสบายมือ เล่นง่าย และให้เสียงใสๆ ฟังแล้วคิดถึงกลิ่นอายทะเลอัน
ชื่อ Ukulele นั้น แปลห้วนๆ แบบชาวเกาะชิวๆ ได้ว่า "หมัดกระโดด” ซึ่งน่าจะมาจากลักษณะของนิ้วผู้เล่น
ต้องสลับที่กดเด้งไปมาบนคอ Ukulele ที่ดูแบบมีศิลปะแล้ว คล้ายกับตัวหมัดกำลังกระโดดไปมาบนทุ่งหญ้า
ส่วนอีกศาสตร์กล่าวว่า ตามหลักภาษาฮาวายเอี้ยน Uku แปลว่า "ของขวัญ" ส่วน Lele แปลว่า "การมา” ซึ่ง
น่าจะพอกล้อมแกล้มแบบมีเหตุผลไปได้ว่า ความหมายของมันคือ "ของขวัญที่ได้มา (จากชาวโปรตุเกส) ส่วน
การออกเสียงนั้น หากออกเสียงเรียกแบบคนอเมริกัน เขาเรียกว่า "ยคะ เลลี่” ชาวฮาวายเอี้ยนเรียกมันว่า "อู
คู เล่ เล่” ส่วนนักดนตรีสมัยใหม่ขี้เกียจพูดยาว ตั้งชื่อเล่นให้มันสั้นๆ ว่า "ผู้คน" จะเรียกอย่างไรก็ตาม ล้วนเป็น
เครื่องดนตรีชิ้นเดียว กันหมด
Ukulele นอกจากมี หลายชื่อแล้ว Ukulele ยังไม่ได้มีแค่ขนาดเดียว ขนาดของอูคูเลเล่เริ่มตั้งแต่sopranoซึ่งเป็นอูคูเลเล่ขนาดดั้งเดิม อูคูเลเล่ที่เหมาะสำหรับใช้เล่นตีคอร์ดสนุกสนาน ตามด้วย อูคูเลเล่Concert ที่คอยาวขึ้นเพื่อใช้เล่นแบบfingerstyle ต่อด้วย อูคูเลเล่tenor ที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกขั้น พร้อมเฟรตอูคูเลเล่ที่มากขึ้น และเสียงที่หุ้มกังวาลกว่า ปิดท้ายด้วย baritone ที่ใหญ่ที่สุด และตั้งเสียงอูคูเลเล่ไม่เหมือนขนาดอื่น (ตั้งเสียงแบบสี่สายล่างของกีตาร์ปกติ) เสน่ห์อีกอย่างของ Ukulele คือไม้ที่นำมาทำ หากจะให้ถูกตามต้นตำรับอูคูเลเล่แล้ว เขาต้องใช้ไม้ Koa ซึ่งปัจจุบันมีราคาแพงและเริ่มหายาก ไม้ชนิดนี้ให้สุ่มเสียงสดใส แหลมพุ่ง ถูกใจเซียน Ukulele มากที่สุด
ปัจจุบันอูคูเลเล่นอกจากจะใช้ไม้แบบต้นตำรับแล้ว ยังมีการนำไม้ชนิดเดียวกับที่ใช้ทำกีตาร์ เช่น Spruce Mahogary Maple มาประกอบเป็นเจ้าตัวจิ๋วนี้ ไม้แต่ละชนิดให้เสียงอูคูเลเล่แตกต่างกันไปตามชนิดของมัน ระยะหลังมีผู้ผลิตรุ่นใหม่ นำไม้แปลกๆ เช่นMango มาทำก็มี ว่ากันว่าไม้มะม่วง เปล่งเสียงออกมาได้ใกล้เคียง Koa มากทีเดียว ส่วนผู้ผลิตอูคูเลเล่หัวก้าวหน้ารายหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก กับการผลิต Ukulele จากไฟเบอร์กลาส ซึ่งก็ให้เสียงที่มีสไตล์ ต่างไปอีก แบบส่วนที่บ้านเรา ตอนนี้ มีตัวแทนจำหน่ายหลายราย เริ่มนำ Ukulele เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกให้นักดนตรีไทย
แล้ว แต่ออกจะหายากสักนิต และรุ่นใหญ่ๆ แพงๆ ดีๆ ไม่ค่อยมี ส่วนรุ่นอูคูเลเล่ถูกๆ ที่ขายอูคูเลเล่อยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่คุณภาพไม่ดี เสียงเพี้ยนง่าย เป็นแบบตาดีได้ตาร้ายเสีย ต้องลองเล่น ลองบิดลูกบิดให้ดีก่อนซื้อ ผมเชื่อว่าไม่นานนี้น่าจะมี Ukulele ดีๆ ทยอยเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยมากขึ้นตามกระแส Ukulele Fever ที่แรงขึ้นเรื่อยๆไปทั่วโลก
Ukulele มีอูคูเลเล่ขนาดมาตรฐานอยู่ทั้งหมด 4 ขนาด โดยขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Tenor,
Soprano และ Concert ตามลำดับครับ สำหรับอูคูเลเล่ขนาด Soprano, Concert และ Tenor มีวิธีเล่นอูคูเลเล่เหมือนกันโดยมีการจูนเสียงอูคูเลเล่ที่เป็นมาตรฐานสากลทั่วโลก เรียกว่า C turning ก็คือจูนแบบ GCEA ไล่ลงมาตั้งแต่สายที่ 4(บนสุด) ลงไป สายที่ 1 (ล่างสุด)ส่วนขนาด Baritore จะมีการจูนเสียงที่แตกต่างไปจากขนาดอื่นๆ คือ จูนเหมือน 4 สายล่างของ กีตาร์ธรรมตา คือ DGBE ซึ่งก็หมายถึง เวลาเราจะจับคอร์ต ก็ต้องจับแตกต่างไปจาก Soprano, Concert และTenor ทำให้ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมกัน แต่ก็เริ่มมีผู้ผลิตสาย ukulele หลายราย เริ่มทำสายที่จูนแบบ GCEAสำหรับ ukulele ขนาด Baritone ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากเสน่ห์ของ ukuleleก็คือ ความเล็ก ที่คุณภาพไม่เล็ก ของมัน แต่เจ้า Baritone นี่ มีขนาดใหญ่สุด ทำให้ได้เสียงที่ใหญ่ๆหุ้มๆ คล้ายกีตาร์เกินไป คนก็เลยยังไม่นิยมกัน
Ukulele มีสายอูคูเลเล่เพื่อใช้บรรเลงเพลงแค่เพียง 4 สาย โดยใช้สายไนล่อน รูปทรงจะเล็กกว่าอะคูสติก
อูคูเลเล่มาก ซึ่งจะมีขนาดอยู่ 4 ขนาด คือ
1 Soprano (standard size)Soprano Ukulele มีขนาดความยาวประมาณ 21 นิ้ว มีจำนวน fret ขนาดอูคูเลเล่มาตรฐานที่ 12 frets ซึ่งจะเป็นจำนวน fret จาก nut ถึงตัว body ที่ 12 frets จูนสายเป็น GCEA โดยถือเป็นขนาดมาตรฐานแท้ๆดั้งเดิมของ ukulele ในบางรุ่นก็มีจำนวน fret มากขึ้นเป็น 14 frets หรือมากกว่า แต่จะเป็น fret ที่เพิ่มเข้ามา
อยู่บริเวณตัว body แต่ก็ยังมี ukulele บางรุ่น ที่ใช้ตัว body เป็นขนาด Soprano แต่ใช้ fingerboard เป็น
Concert Scale แทน เพื่อเพิ่มจำนวน frets ให้มากขึ้น โดยจะเรียกว่า Super Soprano นอกจากนี้ก็มี บางรุ่น
ที่ใช้ body เป็น Soprano แต่ใช้ fingerboard เป็น tenor Scale เช่น Ohana SK-30L Longneck นักดนตรี
ที่ใช้ Soprano ขนาดมาตรฐาน เช่น Ohta-san ใช้เล่นเพลง Hawaii
2 Concert Ukulele มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิดนึง โดยมีความยาวประมาณ 23 นิ้ว จูนสายเป็น GCEA มี
ขนาด fingerboard ที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเช่นกัน โดยจะมีประมาณ 14 ถึง 17 frets ซึ่งจะเป็นจำนวน fret จาก
nut ถึงตัว body ที่ 14 frets และบางรุ่นอาจมี fret มากกว่า แต่ก็จะเพิ่มเข้ามาในส่วนของตัว body
3 Tenor Ukulele มีขนาดใหญ่กว่า concert โดยมีความยาวประมาณ 26 นิ้ว จูนสายเป็น GCEA หรือ
บางคน จูนเป็น gCEA คือให้สายที่ 4 มีเสียงเป็น G ต่ำ (Low G) มีจำนวน fret ประมาณ 17 ถึง 19 frets โดย
จะเป็นจำนวน fret จาก nut ถึงตัว body ที่ 14 frets เหมือนกัน fret ที่เพิ่มเข้ามาจะอยู่ในส่วนของตัว body
ผู้ที่เล่นกีตาร์อยู่แล้ว จะชื่นชอบ ukulele ขนาดนี้ เนื่องจากขนาตเสียงที่ใกล้เคียงกีตาร์ และ fingerboard
ที่สามารถรองรับ การเล่นตัวโน้ตต่างๆ และการเล่นที่หลากหลาย นักดนตรีที่มีชื่อเสียง เช่น lake Shimabukuro
ก็ใช้ tenor ในการเล่นเพลง While my guitar gently weeps และ Israel KarmakarwCole กับเพลง
Somewhere Over The Rainbow
4Baritone Ukulele เป็น ukulele ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวประมาณ 30 นิ้ว มีจำนวน fret
ประมาณ 19 ถึง 21 frets จูนสายเหมือนกับ 4 สายล่างของกีตาร์ เป็น DSEE จึงทำให้มีรูปแบบในการจับ
คอร์ด และตัวโน้ต ที่ต่างออกไปจาก ukulele ขนาดอื่นๆ
สายอูคูเลเล่
1. การเปลี่ยนสายอูคูเลเล่ ความถี่ของการเปลี่ยนสายอูคูเลเล่ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่า เล่นอูคูเลเล่ตัวนั้น
บ่อยแค่ไหน และแรงที่ใช้เยอะแค่ไหน บางคนใช้ไปไม่กี่อาทิตย์ก็ต้องเปลี่ยน แต่บางคนอาจจะเลยไปถึง 5-6
เดือน หรือมากกว่านั้นแต่ที่แน่ๆควรจะเปลี่ยนสายเมื่อมีสายใตสายหนึ่งขาด และควรจะเปลี่ยนทั้งชุดในคราว
เดียว เพราะถ้ามีสายหนึ่งขาด ก็จะเป็นสัญญาณเตือนว่า สายอื่นๆ ก็เริ่มจะขาดแล้วเหมือนกัน
2. ถ้ารู้ว่าจะไม่ได้เล่นอูคูเลเล่เป็นเวลานานๆ เช่นเป็นครึ่งเดือน หรือเป็นเดือน ควรผ่อนสายให้หย่อน
เพื่อเป็นการถนอมสายและคอและลูกบิด
การทำความสะอาดอูคูเลเล่
อูคูเลเล่ไม่ควรโดนน้ำ ดังนั้น เมื่ออูคูเลเล่เปียก ควรเช็ดให้แห้งโดยใช้ผ้านุ่มๆ เช่น ผ้า micro fiber
เป็นต้น
การเก็บรักษาอูคูเลเล่
1. ควรเก็บอูคูเลเล่ไว้ในเคส หรือ กระเป๋า จะเป็นแบบอ่อน (Soft Case) หรือแบบแข็ง (Hard Case) ก็
ได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรจะเป็นแบบแข็ง เผื่อเวลาตกกระแทก และกันรอยขีดข่วน
2. เก็บไว้ในที่ปลอดภัย ไม่ร้อนเกินไป ในรถที่จอดตากแดด ห้ามเอาไปเก็บเด็ดขาด หรือในที่เย็นเกินไป
ไม่ควรเก็บไว้ที่สูง เวลาตกมาจะได้ไม่เสียหายมาก
การเลือกซื้อ
1. อูคูเลเล่มืออสชีพให้เลือกซื้อที่ทำจากไม้ท่อนเดียวทั้งตัว ไม่ควรซื้อที่ทำจากไม้อัดทั้งตัว ซึ่งไม้ที่ดีที่สุด ที่นำใช้
ทำอูคูเลเล่นั้นก็คือ ถ้าเป็นไม้มาฮอกกานี้ (Mahogany Wood) หรือถ้าซื้อแบบไม้จริงผสมไม้อัด ให้ดูความ
เรียบร้อยของรอยต่อและรูปลักษณ์ที่สวยงาม
2. พิจารณาดูให้ทั่วทุกมุมของลำตัวว่ารอยต่อของมุมต่างๆ การขัต การติดกาวแส
การลงสีเรียบร้อยสวยงามดีหรือไม่ อาจใช้มือลูบคลำสัมผัสความกลมกลึงให้ทั่วทุกเหลี่ยมมุมก็ได้
3. ทดลองวางอูคูเลเลในแนวระนาบทุกด้าน สังเกตให้เห็นว่าไม่มีส่วนใดคดงอหรือไม่ ถ้าคดงอให้หลีก
เหลี่ยงที่จะซื้อ
4. สองขึ้นสายอูคูเลเล่ทั้งสี่ให้ได้ระดับเสียงถูกต้องแล้วกดสายลงบนเฟร็ตทุกเฟร็ตแล้วติดเทียบเสียงกับเปียโน
หรือฟังด้วยหูว่ามีเฟร็ตใตให้เสียงเพี้ยนหรือไม่
5. อย่าลืมมองส่องผ่านช่องเสียง ดูข้างในว่าไม้โครงสร้างข้างในตัวอูคูเลเล่มีลักษณะเรียบร้อยแน่นหนา
ถาวรหรือไม่ มีหยากไยแมงมุมหรือเปล่า
6. ลองเล่นคอร์ดอูคูเลเล่หรือทำนองเพลงดูว่าเสียงไพเราะกังวานกลมกลืนถูกใจหรือไม่